TIP น่ารู้! เครื่องบดกาแฟแต่ละชนิดมีอะไรบ้างนะ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องดื่มส่วนใหญ่ที่คนไทยนิยมดื่มกัน
หนึ่งในนั้นก็มีกาแฟรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะร้อน
เย็นหรือแบบปั่นก็เป็นที่นิยมทั้งสิ้น ด้วยรสหอมเข้ม
ผสานความเปรี้ยวและขมที่ลงตัวทำให้ปัจจุบันคนไทยดื่มกาแฟกันเป็นอันดับต้นๆของโลก
ด้วยความนิยมนี้เองทำให้ตลาดกาแฟมีมูลค่ามากมาย
ราคาก็แตกต่างกันไปตามแบรนด์และวัตถุดิบ แต่กาแฟแก้วหนึ่งก็แสนแพง ถ้าทำดื่มเองที่บ้านได้คงจะดีไม่น้อย
ในขั้นตอนอันยุ่งยากของการเตรียมกาแฟก็มีอยู่วิธีหนึ่งที่นอกจากจะลดต้นทุนได้แล้วยังทำได้ง่ายแสนง่ายไม่ว่าใครก็ทำได้
นั่นก็คือการบดกาแฟนั่นเอง
แต่เอ ...
เครื่องบดกาแฟเครื่องหนึ่งราคาไม่ใช่น้อยๆ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเครื่องบดกาแฟแบบไหนเหมาะกับความต้องการของเรา
วันนี้เจ้าสัวจะเอาเคล็ดลับมาบอก ไปดูกันเลย!
TIP : รู้หรือไม่ เมล็ดกาแฟที่ซื้อมาจากร้านนั้น
หากบดตอนชงจะให้กลิ่นหอมน่าอร่อยกว่าให้ที่ร้านบดมาให้ เพราะเมื่อกาแฟถูกบดเป็นผงแล้วจะส่งกลิ่นหอมออกมา
หากบดทิ้งเอาไว้แล้วไม่ชงเลยอาจจะทำให้กลิ่นหอมลดน้อยลงได้จ้า
1. เครื่องบดกาแฟแบบ Blade grinder
เครื่องบดเริ่มต้นที่ทำงานด้วยใบมีดแบบหมุน
มีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าหมุนใบมีดและแบบใช้มือหมุนด้วยตัวเอง ตัวเครื่องขนาดเล็ก
พกพาสะดวก ทำความสะอาดง่าย ราคาถูกและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ทว่ากลับมีข้อเสียคือผงกาแฟไม่ค่อยสม่ำเสมอ
ใช้ชงแบบ Drip / French Press / แช่แล้วกรอง และเครื่องชงแบบแรงดันยังพอได้
แต่เนื่องจากผงกาแฟที่ได้จะมีทั้งหยาบและละเอียดปะปนกันไป
ทำให้เมื่อสัมผัสน้ำมากเกินไปก็จะขม น้อยเกินไปก็ไม่ได้รสชาติของกาแฟมากนัก อีกทั้งระหว่างการบดยังทำให้ความร้อนก่อกวนรสชาติของผงกาแฟจนอาจทำให้กลิ่นและรสจางหายไปได้อีกด้วย
TIP : ผงกาแฟจาก Blade grinder
ที่ละเอียดเกินไปอาจจะอุดตันในเครื่องชงได้
2. เครื่องบดกาแฟแบบ Conicial burrs grinder
เป็นเครื่องบดกาแฟที่ได้รับความนิยมมากกว่าแบบแรก
ใช้การบดเมล็ดกาแฟด้วยเฟืองบด 2 ชิ้น มีทั้งแบบใชไฟฟ้าและมือหมุน
แถมยังสามารถปรับความละเอียดของการบดตามชนิดของเมล็ดกาแฟต่างๆได้
แน่นอนว่าทำได้ทั้งแบบ French Press ไปจนถึง Espresso
ผงกาแฟที่ได้มักจะสม่ำเสมอกว่าแบบใบมีดและช่วยให้เมล็ดกาแฟปล่อยน้ำมันที่ทำให้กลิ่นหอมขึ้นออกมาด้วย
มีหลายขนาด หลายราคา และหลายเฟือง และไม่ค่อยพบการอุดตันบ่อยนัก
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเครื่องแบบ Conicial burrs grinder คือฟันบดส่วนมากจะทำมาจากเซรามิกหรือโลหะทำให้มีความคงทนและอายุการใช้งานนานมาก
สะสมความร้อนน้อยทำให้กลิ่นและรสไม่หายไปแบบ Blade grinder
ข้อเสียคือใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน
บดได้ทีละน้อยทำให้ไม่เหมาะสำหรับนำไปประกอบธุกิจ
และหากบดต่อเนื่องกันนานๆก็อาจจะทำให้เกิดความร้อน
ทำให้รสชาติของแก้วหลังๆด้อยกว่าแก้วแรกๆ
TIP : ราคาของเครื่องบดประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับเฟืองที่ใช้และการประกอบ
ดังนั้นหากประกอบเองไม่ชำนาญ เจ้าสัวแนะนำว่าให้ถามผู้ขายเพื่อขอให้เขาประกอบให้ดีกว่านะ!
3. เครื่องบดกาแฟแบบ Flat Plate Burr Grinder
เครื่องบดกาแฟยอดนิยมในร้านค้าหรือกิจการค้าขาย มีเฟืองบด 2 ชิ้นประกบกันสำหรับการบดทำให้สามารถปรับความละเอียดได้มากกว่า
Conicial
burrs grinder ระบายความร้อนได้ดี
เมื่อบดต่อเนื่องกันแล้วจะไม่ทำให้กาแฟร้อนจนเสียรสและกลิ่น
อีกทั้งเศษกาแฟที่คาอยู่บนเครื่องบดจะน้อยมาก
ข้อเสียยิ่งใหญ่ของเครื่องบดกาแฟประเภทนี้คือราคาสูง
เหมาะกับร้านกาแฟขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
อีกทั้งหากปรับเฟืองไม่ดีก็จะทำให้ผงกาแฟกระจายตัวไม่ดีจนอุดตันได้ด้วยจ้า
นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีการบดด้วยโกร่งและลูกกลิ้ง
ซึ่งอาจจะใช้เวลานานและเป็นที่นิยมน้อยกว่า
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรสชาติกาแฟที่แตกต่างและมีความชำนาญในระดับหนึ่งแล้ว
กาแฟตุรกีที่เป็นที่นิยมอยู่ช่วงนี้ก็ใช้การบดด้วยโกร่งด้วยนะ!
อ่านจบแล้วก็อยากได้เครื่องบดกาแฟดีๆสักเครื่องไว้ใช้แล้วล่ะซี่
แต่เจ้าสัวขอแนะนำว่าเครื่องแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป
ควรจะเลือกใช้ตามความต้องการจะดีกว่าจ้า
TIP : ไม่แนะนำให้ใช้รุ่นที่ใบมีดเป็นแบบเดียวกับเครื่องปั่นน้ำผลไม้
เพราะผงที่ได้จะไม่สม่ำเสมอ